รองผู้ว่า รฟม.จัดสัมมนารถไฟรางเบาภูเก็ต ค่าโดยสารตามระยะ สูงสุด 137 บาทต่อเที่ยว

ภูเก็ต - การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม การดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระบุ ปี 2566 พี่น้องชาวภูเก็ตจะได้ใช้รถไฟฟ้ารางเบา

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 8 มกราคม 2562, เวลา 18:24 น.

นายภัคพงศ์ และ นายธีรพันธ์ เป็นประธานร่วมเปิดการประชุมสัมมนา/ภาพ ส.ปชส.ภูเก็ต

นายภัคพงศ์ และ นายธีรพันธ์ เป็นประธานร่วมเปิดการประชุมสัมมนา/ภาพ ส.ปชส.ภูเก็ต

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ รฟม. (กลยุทธ์และแผน) เป็นประธานร่วมเปิดการประชุมสัมมนาการทดสอบความสนใจ ของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาร์เก็ตซาวดิ้ง โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

โดยการประชุมได้มีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (8 ม.ค. 62) ณ ห้องพระพิทักษ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเมโทรโพล อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยมี ส่วนราชการ ผู้แทนจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนที่เข้าร่วม

นายธีรพันธ์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อชี้แจงนำเสนอให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลงทุนโครงการ และรวบรวมข้อมูลข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากตัวแทนของภาคเอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง นำไปประกอบการศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการที่เหมาะสมต่อไป

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา แบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ระยะโดยระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ตถึงห้าแยกฉลองระยะทาง 41.7 กิโลเมตรและระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่นถึงเมืองใหม่ระยะทาง 16.8 กิโลเมตร ซึ่ง รฟม.จะดำเนินการระยะที่ 1 ก่อน จำนวน 21 สถานี แบ่งเป็น สถานีระดับพื้นดิน 19 สถานี, สถานียกระดับ 1 สถานี และสถานีใต้ดิน 1 สถานี (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

นายธีรพันธ์ระบุว่า กรอบวงเงินลงทุนโครงการระยะแรกประมาณ 34,827.28 ล้านบาท กำหนดอัตราค่าโดยสารแบบตามระยะทางสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 100 – 137 บาทต่อเที่ยว และจากการวิเคราะห์โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตจะเป็นผลตอบแทนการลงทุนทางเศรษฐศาสตร์ประมาณร้อยละ 12.5

ทั้งนี้ รฟม.จะจัดสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนอีกครั้ง ในวันศุกร์ (11 ม.ค.) ณห้องฟอร์จูนชั้น 3 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว กทม. และจะได้นำข้อมูลและข้อคิดเห็นจากการสัมมนาประกอบการพิจารณารูปแบบการร่วมทุนโครงการ และขออนุมัติดำเนินโครงการรูปแบบการลงทุนจัดเตรียมเอกสารโครงการ เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในงานด้านต่าง ๆ เช่นงานโยธา ระบบรถไฟฟ้าการเดินรถ งานบำรุงรักษาและงานให้บริการต่อไป

คาดว่าจะสามารถขออนุมัติดำเนินโครงการจากคณะรัฐมนตรีได้ราวกลางปี 2562 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ภายในปี 2563 ทั้งนี้จะ สามารถเปิดให้บริการรถไฟฟ้ารางเบาของจังหวัดภูเก็ต ได้ภายในปี 2566

นาย ธีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รฟม.อยากจะได้รับความสนับสนุนจากส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต้องการให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์และประสบความสำเร็จ เพื่อให้ประชาชนชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว มีการเดินทางที่มีสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยตรงเวลา ถือว่าเป็นการพัฒนาพื้นที่ของภูมิภาคอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า โครงการนี้มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากบริเวณสถานีรถไฟท่านุ่น จังหวัดพังงา ผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต และสิ้นสุดที่บริเวณห้าแยกฉลอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 58.5 กิโลเมตร ซึ่งได้บรรจุไว้ในมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP Fast Track มีการประเมินเงินลงทุนในโครงการที่ 40,000 ล้านบาท (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ด้านนายภัคพงศ์ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดระบบขนส่งทางรางในส่วนภูมิภาค ในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา เป็นโครงการแรกในภูมิภาคของประเทศ ตนเชื่อมั่นว่าโครงการนี้เป็นความหวังของประชาชนจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับการร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน และทำให้จังหวัดภูเก็ตเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

- สำนักข่าวประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่