ประกอบด้วย นายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ นายศิริวัฒน์ คุ้มทัศ นายธนพล คงอิว นายธราเทพ แสงพิรุณ และน.ส.กมลชนก กล่ำเทพ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ร่วมกันเป็นจำเลขที่1-3 คือ ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ และร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร ขับรถไล่ยิงแล้วลงไปทำร้ายร่างกายนักศึกษาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.59 เวลากลางคืน
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายผู้เสียหาย กล่าวว่า ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 คน มีความผิดจริงตามมาตรา 309 วรรค 2 มาตราเดียว เพราะเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายและลงโทษบทหนักสุด และยกฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สั่งจำคุกจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 คนละ 1 ปี ฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และข่มขืนจิตใจผู้อื่น แต่ความผิดฐานทำร้ายร่างกายจำเลยให้การเป็นประโยชน์ยอมรับสารภาพบางข้อหาในระหว่างสืบพยาน และนำเงินมาบรรเทาความเสียหายให้ฝ่ายโจทก์คนละ 40,000 บาท ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 11 เดือน จำเลยที่ 2 และ 3 จำนวน 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลอุธรณ์วางหลักทรัพย์คนละ 500,000 บาท ทั้งนี้ หลังคำพิพากษาของศาลในคดีนี้ กลุ่มนักศึกษาและญาติที่มาร่วมรับฟังต่างรู้สึกพึงพอใจ และเคารพผลการตัดสินพิจารณาของศาล แต่ก็จะขอยื่นอุทธรณ์กับศาลในข้อห้าร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป