มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยขอให้กรมปศุสัตว์ทบทวนกรณี “ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง”

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีแผนการที่จะให้ประชาชนลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงและฝังไมโครชิพทุกตัวเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการระบุตัวตนสัตว์ ถึงข้อควรกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและอาจเป็นวิธิควบคุมสัตว์จรจัดที่ไม่ยั่งยืน

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย

วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2562, เวลา 15:00 น.

นางสาวลูอีซ โรส ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยกล่าวว่า ถึงแม้การลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงจะเป็นประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามยังต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพราะหากการลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงต้องมีค่าใช้จ่าย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการรับเลี้ยงสุนัขและแมวจรมีแนวโน้มที่จะทิ้งสัตว์เหล่านั้นมากกว่าที่จะจ่ายเงินเพื่อลงทะเบียนสัตว์เลี้ยง กล่าวคือกระบวนการนี้จะทำให้มีสัตว์ถูกทอดทิ้งมากขึ้น และเพิ่มจำนวนสัตว์จรจัดในประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผู้เลี้ยงมีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่สุนัขจรจัดที่มีแต่เดิมอยู่แล้วนั้นมีแต่จะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

กรมปศุสัตว์ได้บันทึกสถิติของจำนวนสุนัขและแมวจรจัดในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2560 อยู่ที่ประมาณ 860,000 ตัว ซึ่งมูลนิธิเชื่ออย่างยิ่งว่าจำนวนในขณะนี้น่าจะมากถึง 10 เท่า หรือราวๆ 8,600,000 ตัว โดยวิธิที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการควบคุมประชากรสัตว์จรจัดเหล่านี้ในระยะยาว คือการทำโครงการ CNVR ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนได้แก่ จับ ทำหมัน ฉีดวัคซีน และปล่อยกลับสู่ถิ่นเดิม ซึ่งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ยึดถือหลักการนี้และปฏิบัติมาต่อเนื่อง 16 ปี

นายสัตวแพทย์ ตันติกร รุ่งพัฒนะ ผู้อำนวยการสวัสดิภาพสัตว์มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยกรุงเทพฯ กล่าวว่า มูลนิธิได้ดูแลทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวจรจัดมากว่า 350,000 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสุนัข กว่า 150,000 ตัวเป็นจำนวนแค่ในกรุงเทพที่เดียว สัตว์พวกนี้จะไม่สามารถขยายพันธุ์อีกได้ พร้อมฉีดยาป้องกันโรคติดต่อต่าง ๆ ในสุนัขและแมว เช่น โรคพิษสุนัขบ้า จึงสามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ ซึ่งมูลนิธิได้พิสูจน์แล้วว่า CNVR เป็นวิธิที่ได้ผล เช่นจังหวัดภูเก็ตเมื่อปีพ.ศ. 2548 มีสุนัขจรจัดประมาณ 80,000 ตัวรอบเกาะ ในปัจจุบันนี้มีจำนวนน้อยลงกว่า 10 เท่า และพบว่าสุนัขมีสุขภาพดี สมบูรณ์

การลดจำนวนของสุนัขจรจัดลงอย่างมหาศาลนี้เป็นผลมาจากการที่สุนัขได้รับการทำหมัน การแพร่พันธุ์จึงลดลงตามลำดับ ซึ่งมีปศุสัตว์จังหวัดในหลายพื้นที่เห็นด้วยและให้การสนับสนุนกับกระบวนการ CNVR ถึงเวลาที่ต้องผลักดันให้ CNVR นี้เป็นวาระสำคัญระดับชาติ และรัฐบาลควรเล็งเห็นถึงความสำคัญ ดังนั้น มูลนิธิจึงร้องขอให้กรมปศุสัตว์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทบทวนการวางแผนขับเคลื่อนการลงทะเบียนสัตว์เลี้ยง และพิจารณางบประมาณในการแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในระยะยาวซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ ด้วยวิธิการ CNVR

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่