กรมควบคุมโรคฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี 7 กลุ่มเสี่ยง

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ในประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและลดการเสียชีวิต เริ่มให้บริการแล้ว 1 พฤษภาคม จนถึง 31 สิงหาคม 2563 ณ สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 15 พฤษภาคม 2563, เวลา 11:00 น.

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีการระบาดของโรคโควิด - 19 ซึ่งเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจเช่นกัน มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ อาจเกิดความสับสนในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาได้

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุม กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการรณรงค์เร่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้น (จากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนพฤษภาคม) เพื่อจะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่จะพบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับช่วงนี้มีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจเช่นกัน มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ อาจเกิดความสับสนในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาได้ จึงเป็นการช่วยลดภาระในการตรวจคัดกรองภาวะติดเชื้อร่วมระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่กับโรคโควิด-19 อีกทั้งช่วยลดจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่จะเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล และเป็นการสงวนทรัพยากรทางการแพทย์เพื่อเตรียมการรองรับการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย

สำหรับการรณรงค์เร่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ จัดระหว่างวันที่ 1 พ.ค.- 31 ส.ค. 63 จำนวน 4.11 ล้านโด๊ส เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงที่หากป่วยแล้วอาจจะมีอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิต โดยให้วัคซีนในประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน) 4.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และ 7.โรคอ้วน (น้ำหนัก>100 กิโลกรัม หรือ BMI >35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) นอกจากนี้ ได้เตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด้วย โดยประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถขอรับบริการวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามวันและสถานที่ดังกล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในช่วงนี้ อาจทำให้ประชาชนมีความกังวลว่าจะมีคนจำนวนมากมารับบริการฉีดวัคซีนดังกล่าว และอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 นั้น ในเรื่องนี้กรมควบคุมโรคได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้จัดทำแนวทางการดำเนินงานให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2563 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในหน่วยบริการที่ให้บริการวัคซีน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลได้สำรวจกลุ่มเป้าหมายและวางแผนการให้วัคซีน ปรับรูปแบบให้บริการเข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งการจัดช่วงเวลาให้บริการ จำนวนผู้มารับบริการ จัดสถานที่ เพื่อลดความแออัดของการมารวมตัวกัน ยึดหลักการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร และปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหน่วยบริการที่จัดบริการแบบเคลื่อนที่ให้ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน โดยการให้บริการเชิงรุกหรือกระจายการให้บริการในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดการรวมตัวและความแออัดในการให้บริการ โดยจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้บริการแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงในบางกลุ่มหรือบางกรณี เช่น ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้สูงอายุ เป็นต้น ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ที่มา : กรมควบคุมโรค

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่