เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ชุมชนตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ตโดยลุงเป็ด ผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านและคนในครอบครัวได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมาจากบริเวณซอกตึกข้างกำแพงบ้าน แต่ไม่สามารถนำตัวออกมาได้และมองไม่เห็นเนื่องจากเป็นที่มืดอับ จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือหน่วยงานในพื้นที่แต่ทีมช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงตัวลูกแมวได้เนื่องจากพื้นที่ข้างตึกดังกล่าวแคบเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะแทรกตัวได้ ทางครอบครัวจึงแจ้งเหตุไปที่แฟนเพจทาสแมวภูเก็ต ซึ่งได้ประสานความช่วยเหลือต่อมาที่มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก)
วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสัตว์ของซอยด๊อกได้ลงพื้นที่และพยายามแทรกตัวเข้าไปในซอกตึกเพื่อนำลูกแมวออกมา แต่ไม่สามารถไปถึงจุดที่ลูกแมวอยู่ได้เนื่องจากบริเวณนั้นแคบมากจนไม่มีอากาศหายใจเพียงพอและจุดที่แมวอยู่ไกลจากทางเข้าถึงราว ๆ 4 เมตร จึงได้ประสานงานทีมอีกสองนายเพื่อวางแผนช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่นายหนึ่งปีนขึ้นไปบนหลังคาและใช้ด้ามไม้แหย่ลงไปกั้นไม่ให้ลูกแมวถอยหนีเข้าไปลึกกว่าเดิม และอีกนายหนึ่งใช้พัดลมเป่าเข้าไปในซอกกำแพงเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท จากนั้นเจ้าหน้าที่คนแรกจึงได้พยายามเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดหลังจากใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าจึงสามารถช่วยชีวิตลูกแมวออกมาได้ และนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแมวของซอยด๊อกเพื่อตรวจและฟื้นฟูร่างกายต่อไปซึ่งขณะนี้ลูกแมวปลอดภัยดี
ลุงเป็ด ผู้แจ้งเหตุกล่าวว่าแม่แมวน่าจะมาคลอดลูกบนหลังคา และลูกแมวใช้ชีวิตอยู่บนนั้นก่อนจะพลัดตกลงมาซึ่งไม่มีใครในครอบครัวเคยเห็นแม่แมวมาก่อน ได้ยินเสียงร้องจึงมองดูรอบบริเวณบ้าน และพบลูกแมวติดอยู่ข้างซอกตึก โดยซอกตึกนี้แคบมากและลูกแมวอยู่ในระยะที่ไกลเกินกว่าจะช่วยออกมาได้ ได้พยายามหลายวิธีเช่นหาไม้เขี่ย วางอาหารล่อแต่ไม่สำเร็จ
ด้านซอยด๊อกเผยว่าหนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยสัตว์กลุ่มนี้เคยทำงานเกี่ยวกับการกู้ภัยมาก่อนจึงได้นำทักษะและการวางแผนแก้ไขปัญหาเมื่อครั้งช่วยชีวิตคนมาใช้ในการช่วยเหลือลูกแมวในครั้งนี้ พร้อมกำชับว่าสำหรับการปฏิบัติงานในการช่วยชีวิตสัตว์เช่นนี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
