“ผลกระทบของความรุนแรงโอมิครอนน่าจะน้อยกว่าเดลต้า แต่ก็ต้องมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจอย่างแน่นอน รัฐต้องลดเวลาในการให้บริการ ปิดบ้าง หรืออาจจะถึงขั้นล็อกดาวน์ในประเทศ และอาจจะงดกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าสถานการณ์มันรุนแรงกว่านี้” นายปรีชาวุฒิ กล่าว
โดยนายปรีชาวุฒิกล่าวภายหลังจากคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 143/2565 ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติม มาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยใจความสำคัญของคำสั่งดังกล่าวมีทั้งสิ้น 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนพิจารณาการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work Form Home) เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโรค ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ข้อ 2 ยังคงดำเนินการตามคำสั่งภูเก็ตที่ 8319/2564 ลงวันที่ 27 ธันวาคม เรื่อง มาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคต่อเนื่องไปอีก จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยให้ยกเลิกข้อความในข้อ 3 (1), 2 (ก)(ข)
ข้อ 3 ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ตามปกติ กรณีบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านจะเปิดให้บริการได้เฉพาะร้านที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น
ข้อ 4 สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันยังมีความจำเป็นต้องปิดดำเนินการไว้ก่อน
และข้อ 5 มาตรการตรวจสอบและประเมินความพร้อมของสถานที่ บุคลากร และการจัดการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่กำหนด ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมอำเภอ (ศปก.อ.) ทุกอำเภอบูรณาการกำลังร่วมกัน ตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด
ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและพนักงานสถานประกอบการในพื้นที่ ภาคเอกชนป่าตองและชุมชนนาในผนึกกำลัง จัดตั้งจุดตรวจ ATK ทั้งที่ให้บริการฟรีและจัดหาชุดตรวจราคาประหยัดเพื่อแบ่งเบาภาระชาวป่าตอง
“เราอยากให้คนที่ยังไม่ติดโควิดได้ไปทำงาน ส่วนคนที่ติดก็กักตัวตามขั้นตอน เรามีการตรวจทุกวัน มันจึงไม่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ เราขายชุดตรวจราคาต้นที่ 40 บาท ซึ่งเราจ่ายอยู่ที่ 40-49 บาทต่อชุดแล้วแต่ราคาในแต่ละล็อต แต่ในกรณีที่ไม่มีงบประมาณเราก็ตรวจให้ฟรี”
ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง เชื่อมั่นการเรียนรู้และทำความเข้าใจในบริบทของโควิด-19 คือสิ่งที่สำคัญ และในขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักการป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 และรู้ว่าต้องดูแลตนเองอย่างไรหากติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการดำรงชีวิตร่วมกับโควิด-19 คือการเข้าถึงยาและวัคซีน
“เราต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้ เพราะในขณะที่เรายังพานักท่องเที่ยวเข้ามา เราก็ต้องเปิดบ้างปิดบ้าง ดูแลตัวเองบ้าง มีห้องกักตัว รู้ว่าเมื่อพนักงานหรือผู้ประกอบติดเชื้อต้องทำอย่างไร แน่นอนว่ามันต้องมีหลายสายพันธุ์เข้ามา เราต้องฝึกตัวเอง ฝึกเรียนรู้อยู่กับมันให้ได้ เพราะเราอาจจะไม่ตายเพราะติดโควิด แต่อาจเพราะเศรษฐกิจพังแล้วอดตาย” เขากล่าว
“ในภาพรวมก็คือเราคงห้ามโอมิครอนไม่ได้ แต่เนื่องจากว่าประชาชนได้เรียนรู้ในเรื่องของการป้องกันตัวเอง และการปฏิบัติตัวเมื่อติดโควิด-19 ที่มีทั้งการแยกตัวเองทั้งที่บ้าน ในชุมชน และโรงแรม ซึ่งต่างจากเดิมที่ทุกคนต้องไปโรงพยาบาล เรามีความรู้มีการปฏิบัติตัวที่ดีขึ้น เพื่อลดภาระในเรื่องของสาธารณสุข”
“และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรามีเอทีเค แต่ก็ยังขาดในเรื่องของยาที่ไม่สามารถซื้อขายได้ และในเรื่องของวัคซีนที่ยังไม่เป็นอิสระคือยังไม่สามารถนำเข้ามาได้เหมือนเอทีเค เพราะฉะนั้นมันจึงทำให้เราต้องพัฒนาขึ้นไปอีก” นายปรีชาวุฒิ กล่าว