ภูเก็ต เมืองแห่งบ้านและการลงทุน

ทำไมภูเก็ตจึงเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ ทั้งในการอยู่อาศัยและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

วันจันทร์ ที่ 26 ธันวาคม 2559, เวลา 17:39 น.

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด นายภาณุพงศ์ กริชจนรัช

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด นายภาณุพงศ์ กริชจนรัช

จากประสบการณ์ 8 ปี ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด นายภาณุพงศ์ กริชจนรัช ได้ตั้งข้อสังเกตและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์และการพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต

จากการที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางลงมาภูเก็ตล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมาเพื่อเปิดตัวอาคารผู้โดยสารนานาชาติ ( International Passenger Terminal) ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตและงาน Startup Thailand & Digital Thailand 2016 ณ โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท หาดป่าตอง ซึ่งการมาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ทำให้คนไทยและต่างชาติให้ความสนใจว่า การเยือนภูเก็ตคราวนี้ ทำไมท่านนายกจึงให้ความสำคัญมากและมาด้วยตนเอง

คำตอบที่หลายๆคนก็ตอบได้คือ Startup คือ อีกหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญของชาติ ที่เป็น Mega Trend ที่คนทั้งโลกกำลังให้ความสนใจ และรัฐบาลไทยเองก็มีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี อย่างน้อยตัวท่านนายกเองก็ให้ความสำคัญกับ Startup ดูได้ จากเมื่อคราวเยือนจีนที่ผ่านมา ท่านได้พบป่ะพูดคุย กับนักธุรกิจระดับโลกที่นาทีนี้ใครๆก็พูดถึง นั่นคือ แจ็ค หม่า เจ้าพ่ออาลีบาบา เป็นกรณีพิเศษ นั่นเอง แต่ก็มีคำถามยอดฮิตในชั่วโมงนี้ถัดมา กล่าวคือ มีเพื่อนๆผมจาก กทม.และ จังหวัดอื่นๆ ทั้งที่เป็นนักลงทุนก็ดี และไม่ใช่นักลงทุนแต่อยากมีบ้านหลังที่ 2 ในจังหวัดท่องเที่ยว ต่างถามผมอย่างกระตือรือล้นว่า ทำไมภูเก็ตจึงเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ ในการ อยู่อาศัย พักผ่อน หรือแม้แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์?

ผมจึงตอบเพื่อนๆของผม ด้วยเหตุผลง่ายๆ 8 ประการดังนี้ครับ

1. ภูเก็ต เป็น World Class Destination (แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก) มานานแล้ว แต่สิ่งหนึ่งทำให้ภูเก็ตโดดเด่นกว่าเมืองท่องเที่ยวระดับโลกหลายๆแห่ง คือชายหาดที่สวยงามระดับโลก ที่แม้แต่ ดาราฮอลีวูดยังต้องข้ามนํ้าข้ามทะเลมาพัก ผู้คน อัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง ที่สำคัญภูเก็ตเป็นจังหวัดที่คนพูดภาษาอังกฤษได้เยอะมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ภูเก็ตยังเป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์ด้านอาหาร ที่ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโก (Phuket City of Gastronomy of UNESCO ) และที่สำคัญค่าครองชีพค่อยข้างที่ตํ่า (เมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกด้วยกัน ) นอกจากนี้ยังมีอีก 2 จังหวัดใกล้เคียง ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการท่องเที่ยว นั่นคือกระบี่และ พังงา ที่รวมกันกลายเป็นคลัสเตอร์ 3 จังหวัดสุด พิเศษของอันดามันของไทย

2. ภูเก็ตอยู่ในทวีปเอเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ Hot!! ที่สุดในโลกตอนนี้ ทวีปอื่นๆ เศรษฐกิจมีแต่ทรงกับทรุด แต่เอเซียโดยเฉพาะ AEC เรามีแต่ขยายตัว เพราะอัตราการเกิดของประเทศในยุโรปต่ำมากๆ เทียบกับเอเซีย ดังนั้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจจึงน้อยกว่ามากๆ บางประเทศถึงขั้นถดถอย จะสังเกตว่าเมืองไทยเอง หรือหลายๆ ประเทศในเอเซีย จะมีชาวยุโรปมากมายย้ายมา ทำงานในเอเซียมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนคุณพ่อทำงานอยู่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนิ เซีย แต่ให้ลูกและภรรยา มาอาศัยและเรียนหนังสือในภูเก็ต

3. ภูเก็ตมีสนามบินนานาชาติ เพื่อการพาณิชย์เป็นของตนเอง และขณะนี้ก็ขยายศักยภาพของสนามบินขึ้นเรื่อยๆ อนาคต สามารถใช้เป็นฐานการบินไปได้หลายประเทศในโลก หรือเพียงทรานสิทที่สุวรรณภูมิ หรือสิงคโปร์ ก็ไปทุกแห่งในโลกนี้ ได้แล้ว

4. ภูเก็ตเป็นเกาะเล็กๆที่สวยงาม ไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป และใกล้แผ่นดินใหญ่ (พังงา) ดังนั้น ทรัพยากรต่างๆ สามารถขนส่งกันง่าย ทั้งทางรถยนต์และเรือ ทำให้เป็น “เกาะ” ที่มีความมั่นคงทางด้านทรัพยากรพอสมควร อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลให้การ สนับสนุนทรัพยากรและเงินทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลให้เป็น World Class Smart City and Startup Hub ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงดึงดูดให้คนเก่งๆมากมาย ทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาอาศัย เป็นฐานการเริ่มต้นธุรกิจที่ภูเก็ต คุณรู้หรือไม่ว่าธุรกิจระดับภูมิภาค อย่างร้านอาหาร Wine Connection ที่มีสาขาทั่ว ประเทศและในต่างประเทศ ก็มีจุดเริ่มต้นเล็กที่ภูเก็ต เจ้าของมีแนวความคิดแบบ Startup ก่อนคำๆนี้จะอินเทรนด์ซะอีก ตอนนี้ได้ข่าวว่า ขายกิจการไปได้เงินไปพันกว่าล้านเกษียณไปเลยทีเดียวครับ

5.ภูเก็ตเป็น หนึ่งใน Marina Hub (ศูนย์กลาง ท่าจอดเรือยอร์ท) ของเอเซีย เป็นที่ต้องการของมหาเศรษฐีจากทั่วโลก สิ่งที่เป็นจุดแข็งของภูเก็ต คือเรามีทะเลอันดามันที่สวยงามมากๆ ใครๆก็ อยากล่องเรือ อยากดำน้ำ แต่นอกจากนั้นทุกๆปี เรือยอร์ทหรูๆเหล่านั้น ต้องมีการซ่อมบำรุงเรือ และแน่นอนว่าช่างไทยไม่ได้ด้อยกว่าใครในโลก เราเก่งมากหลายด้าน แถมค่าแรงก็ยังถูกกว่าเพื่อนบ้านเราอีก ระหว่างจอดเรือซ่อมบำรุงก็มีโรงแรมดีๆ อาหารอร่อย สปาดีๆ และยังบินไปทำธุระที่ไหนในโลกก็ได้อีก สะดวกมากๆครับ

6. ภูเก็ตกำลังจะเป็นหนึ่งใน Medical and Health Care Hub ของเอเซีย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จริงๆปัจจุบันถ้าเราไปดู โรงพยาบาลที่กรุงเทพ เช่น รพ. บำรุงราษฎร์ รพ. กรุงเทพ พระราม9 รพ. BNH ที่สีลม เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เมืองไทยเราเป็น Medical Hub ไปเรียบร้อย แล้ว อันนี้ต้องชมคุณหมอไทยที่เก่งระดับโลก รวมถึงการบริการที่ดีของพยาบาลไทย ที่ผมว่าหาชาติไหนในโลกนี้เทียบยากครับ และขณะนี้กลุ่ม รพ กรุงเทพฯ และ กลุ่มสถาบันด้านความงามต่างๆ ได้ขยายฐานเข้ามาภูเก็ตอย่างเต็มตัวแล้ว เนื่องจาก ลูกค้าหรือผู้ป่วยบางกลุ่ม ต้องการมากกว่าการแพทย์ที่ดี นั่นคือการได้ท่องเที่ยวพักผ่อนในธรรมชาติสวยงาม ระหว่างการรักษาหรือพักฟื้นอีกด้วย ซึ่งทำให้ภูเก็ตเหมาะที่จะเป็น Medical and Health Care Hub ของเอเซีย จริงๆ

7. ภูเก็ตมีโรงเรียนไทยและโรงเรียนนานาชาติ ที่มีคุณภาพระดับประเทศ สำหรับโรงเรียนภาคภาษาไทยของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่รู้กันว่าถือเป็นโรงเรียนที่มีศักยภาพสูง และสามารถส่งนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศปีละมากมาย ในส่วนโรงเรียนนานาชาติ (International School ) ภูเก็ตก็มีหลายๆโรงเรียน และไม่ด้อยกว่าใคร โดยเฉพาะในเชิง การสร้าง International Environment ที่เด็กๆประกอบไปด้วยหลายเชื้อชาติจริงๆ การเรียนการสอนเป็นธรรมชาติไม่ใช่เพียงแค่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ แต่เพื่อนร่วมชั้นเป็นไทย80-90% กรอบความคิด ของนักเรียนนานาชาติที่ภูเก็ต ผมเห็นถึงพลังแห่งความสร้างสรรค์มากมาย และสามารถ Think out of the box ได้เป็นเรื่องปกติเลยครับ นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ ครอบครัวสามารถเริ่มต้นดีๆได้ที่ภูเก็ต

8. ภูเก็ตเป็นเกาะที่มีพื้นที่จำกัด (Limited Land Supply) ไม่สามารถขยายออกไปได้ (ยกเว้น ถมทะเล แต่เราคงทำไม่ได้ง่ายๆ เหมือนญี่ปุ่นหรือ สิงคโปร์ ) ไม่เหมือน กทม ที่มีกรุงเทพชั้นใน กรุงเทพชั้นนอก ปริมณฑล รังสิต ปทุมธานี พุทธมณฑล นครปฐม สมุทรปราการ อยุธยา ฯลฯ ดังนั้น การเพิ่มมูลค่าของที่ดินของภูเก็ต จึงมีอัตราการเพิ่มที่เร็วกว่าปกติครับ กล่าวคือการเพิ่มมูลค่าของที่ดินปกติ(ที่ไม่ใช่เกาะ) จะเพิ่มจากจุดศูนย์กลาง แล้วค่อยๆขยายออกไป แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะช้าลงเพราะรัศมีจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นพื้นที่เกาะแบบภูเก็ต ความเจริญจะมาจากทั้งสองฝั่ง คือเจริญออกจากใจกลางเมือง และ อีกฝั่งคือจะเจริญออกจากชายหาดของภูเก็ตเข้ามาด้วย ทำให้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภาณุพงศ์ กริชจนรัช CEO บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่