วันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day)

วันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา หลังที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปีเป็น “วันพระราชทานธงชาติไทย”

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอาทิตย์ ที่ 8 ตุลาคม 2560, เวลา 11:00 น.

ภาพ กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ กรมประชาสัมพันธ์

กิจกรรมสำคัญได้ถูกจัดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 28 กันยายน ของปี 2560 นี้เป็นปีแรก ซึ่งปีนี้เป็นวันครบรอบ 100 ปี ของการประกาศใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2460 เพื่อสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย

ในวันนั้นเองทางภาครัฐทั้งส่วนกลางและภูมิภาคก็ได้มีการจัดกิจกรรมและการแสดงต่างๆ มีการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมดังกล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศอีกด้วย เพื่อแสดงพลังและแสดงออกถึงความรักชาติ เนื่องในวันสำคัญแห่งความเป็นชาติไทย

ประเทศไทยของเราเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่กันมาแบบพึ่งพาอาศัยกัน มีอะไรก็แบ่งปันให้อภัยกัน ยิ้มแย้มแจ่มใส บรรยากาศรอบตัวที่อุดมสมบูรณ์ มองไปทางไปไหนก็มีของกินอร่อยๆ ผลไม้หลากหลายชนิดที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกออกผล ให้กินกันได้ตลอดทั้งปี

ถ้าลองนึกเอาแบบตลกๆ ประเทศไทยเราอยูได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาประเทศอื่นเลยก็ได้ในแง่ของทรัพยากร สมมติว่าเราปิดประเทศ เราก็อยู่กันได้แบบไม่อดอยาก แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันนิดหน่อยให้เข้ากับวิถีชีวิตของประเทศเกษตรกรรม คิดแค่นี้ก็ทำให้ยิ้มออกมาได้แล้ว เพราะนี่เป็นความสุขเล็กๆ ของคนไทยหนึ่งคนที่รักและภูมิใจในความเป็นไทยอย่างยิ่ง ภูมิใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่รักและหวงแหนประเทศนี้ไม่น้อยไปกว่ากัน

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความรักชาติและพฤติกรรมที่จะพัฒนาชาติไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้านั้น ต้องเกิดจากการปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกที่ดี ซึ่งก็ต้องมาจากพื้นฐานที่ใกล้ตัวที่สุด นั่นก็คือครอบครัวที่ต้องคอยอบรมสั่งสอนลูกหลาน รวมทั้งโรงเรียนที่ต้องมีกิจกรรมปลูกฝังนักเรียนให้มีความรักชาติ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ยังดูเหมือนว่าบ้านเรายังไม่เน้นความสำคัญด้านการส่งเสริมความรักในชาติเท่าที่ควร

ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าบ้านเราไม่เคยต้องลำบาก เกิดมาก็เห็น “ในนํ้ามีปลา ในนามีข้าว” ไม่ต้องอดอยาก ไม่เคยต้องหิวโหย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เขาไม่สามารถผลิตอาหารเองได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ และนอกจากความอุดมสมบูรณ์แล้วประเทศไทยของเรา เป็นประเทศที่น่าอยูที่สุดทไม่ว่าใครจะมองว่าบ้านเราเป็นอย่างไร ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น เพราะที่แห่งนี้เป็นที่ที่เราเกิดและเติบโตขึ้นมา หากขอได้คงจะขอตายที่นี่

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่