ศิลปินในบ้านแห่งกะตะร็อคส์อย่าง อาร์โนด์ นาซาเร-อากา ได้จัดแสดงนิทรรศการสุดพิเศษกับประติมากรรมทำด้วยมืออันน่าหลงใหลของเขา ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่ประกอบขึ้นจากเส้นโค้งแห่งความรู้สึกและความกลมกลึงอันแสนอ่อนโยน งานที่มีชีวิตชีวาของเขามักจะทำให้เกิดความสนุกสนาน รอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะจากผู้ที่เยี่ยมชมงาน รวมทั้งงานเหล่านั้นยังสื่อให้เห็นถึงความเข้าใจเกี่ยวกับปรัชญาที่เต็มไปด้วยความสุขของเขาเกี่ยวกับศิลปะและชีวิตอีกด้วย
อาร์โนด์เกิดในกรุงปารีส ปี 1965 และได้รับการฝึกสอนด้านศิลปะสถาปัตยกรรมในขณะที่ศึกษาอยู่ในชุมชนชาวพุทธแห่งหนึ่งในเบอร์กันดี (Burgundy) ต่อมาเขาได้ออกเดินทางบนเส้นทางแห่งศิลปะที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไป กระทั่งก่อตั้ง PAJ'Art Studio ในกรุงเทพฯ และเขาเองก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตและการทำงาน รวมถึงแรงผลักดันต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อเขา รวมถึงภารกิจในการเผยแพร่ความสุขผ่านผลงานศิลปะ
คุณบอกว่าคุณต้องการ "มีส่วนร่วมในการมอบความสุขกับโลกนี้" ทำไมถึงคิดว่าประติมากรรมจะสามารถทำมันเป็นไปได้
ทุกชีวิตแสวงหาความสุข แต่ละคนมีวิธีในการรับเอาความสุขที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว, เพื่อน, สภาพแวดล้อมทางสังคม, การทำงาน, ความหรูหรา, เรื่องทางเพศ, ชื่อเสียง, อาหาร, เครื่องดื่ม และอื่น ๆ ผมคิดว่าศิลปะมีส่วนทำให้มนุษย์มีความสุขในวิธีที่ลึกซึ้ง อย่างเช่น จิตวิญญาณหรือบางครั้งอาจจะเป็นในเรื่องของศาสนา ผมเริ่มทำงานในฐานะศิลปินเมื่อตอนอายุ 18 ด้วยการสร้างวัดวาอาราม รวมไปถึงประติมากรรมที่เป็นตัวแทนของ พระพุทธเจ้า หรือเทวรูปของพุทธศาสนาในทิเบต วัดและประติมากรรมเหล่านั้นมีสีสันและดูแล้วผ่อนคลายมาก ๆ ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ก็ทำให้ผมมีความสุขและพึงพอใจกับผลงานเหล่านั้นจนเอ่อล้นในหัวใจ
เทคนิคที่ผมพัฒนามันขึ้นมาผ่านผลงานในฐานะศิลปินค่อนข้างจะแตกต่าง แต่มันก็ทำให้มั่นใจได้ว่าผมยังคงทำการสร้างสรรค์ประติมากรรมที่กลมกลืน สดใส มีชีวิตชีวา และ เข้าใจได้ง่าย ผมได้รับฟังความเห็นจากนักสะสมหลายคน พวกเขาขอบคุณผม ที่ผลงานของผมได้ส่งผ่านความสุขให้แก่พวกเขาได้ในทุก ๆ วัน และนั่นมันคือความสุขอันล้ำค่าของผม
ศิลปินท่านใด คือแรงบันดาลใจต่อคุณและผลงานของคุณ?
สำหรับสิ่งที่มีอิทธิพลต่อผม ยกเว้นศิลปะของทิเบตและภูฏานนะ แน่นอนว่ามันก็คือ Nicky de Saint-Phalle ในความมีสีสันสดใสและรูปร่างกลม นอกจากนี้ยังมีน้ำพุ Stravinsky ในกรุงปารีส ที่ได้สร้างขึ้นพร้อมกับสามีของเธอ Jean Tinguely ในปี 1983 ศิลปะร่วมสมัยนี้ทำให้ผมประทับใจเป็นอย่างมาก ตอนนั้นผมอายุ 18 ปี และนั้นเป็นปีที่ผม เริ่มต้นการฝึกหัดงานด้านศิลปะสถาปัตยกรรม และได้พบกับศิลปินชาวปารีสชื่อดังในสตูดิโอของพวกเขา รวมถึงศิลปินอื่น ๆ เช่น Picasso, Dali และ Miro รวมทั้ง ศิลปินอิมเพรสชันนิสต์จำนวนมากที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของผม
คุณจะมีวิธีอธิบายแนวทางการเข้าถึงผลงานของคุณให้กับคนที่ไม่คุ้นเคยกับชิ้นงานของคุณได้อย่างไร?
ผลงานของผมจะอยู่ในรูปแบบสามมิติ รูปร่างจะไม่เหมือนกับความคิดหรือข้อกำหนดที่ใครสักคนได้วางเอาไว้ จะว่าไปแล้วเด็กคนหนึ่งจะไม่ได้เห็นเป็นเช่นเดียวกับผู้ใหญ่เมื่อมองประติมากรรมชิ้นเดียวกัน ทุกชิ้นงานของผมมีความหลากหลายในเรื่องของสีสัน ผมเลือกใช้สีสดใสที่ให้พลังงานเชิงบวก เพราะพระพุทธศาสนาในทิเบตเชื่อว่าสีสันถือเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อจิตใจมนุษย์ งานประติมากรรมของผมทุกวันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับศาสนา แต่ผมต้องการที่จะสร้างอิทธิพลทางบวก จากรูปร่างและสีของชิ้นงานเหล่านั้น นอกจากนี้ ส่วนที่สำคัญของงานของผมคือพื้นผิวที่สดใสมาก ๆ ซึ่งมันจะทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นและเคลื่อนไหวได้ เพราะเมื่อเราหันกลับมามองสีจะเปลี่ยนไปตามทิศทางที่เราอยู่
คุณคิดว่ากะตะร็อคส์ จัดสรรพื้นที่ได้เหมาะสมกับการจัดแสดงผลงานของคุณหรือไม่?
กะตะร็อคส์ เหมาะสมอย่างมากในการจัดแสดงผลงานรูปแบบศิลปะของผม บริเวณการจัดงานสะอาดมาก ผนังเป็นสีขาวซึ่งเหมาะแก่การจัดวางประติมากรรมที่มีสีสันสดใส ซึ่งงานเหล่านั้นจะมอบความความสดชื่นแจ่มใสให้กับทุกคนที่เข้าชม และผมก็คิดว่าผู้คนที่มาเข้าชมมีความสนใจพิเศษและรักในงานศิลปะ การจัดแสดงนิทรรศการที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ของผมในครั้งนี้ จัดได้ดีมาก ๆ เพราะงานถูกจัดขึ้นในสถานที่อันประกอบไปด้วยน้ำอย่างกะตะร็อคส์ ซึ่งงานประติมากรรมของผมเหมาะจะถูกวางแสดงบนพื้นที่ติดทะเล สระว่ายน้ำ หรือบ่อเก็บน้ำในรูปแบบอื่น ๆ
ผลงานประติมากรรมทั้งหมดของอาร์โนด์ นาซาเร-อากา จัดแสดงที่กะตะร็อคส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายทั้งสิ้น โดยถูกจัดไว้ที่โอเชียนฟร้อนคลับเฮ้าส์ อันเป็นที่รู้จักกันดีของรีสอร์ทถึงความสวยงามและโดดเด่นล้อมรอบด้วยสระว่ายน้ำ งานนี้เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 เม.ย. นี้ โดยจะมีข้อมูลและรายละเอียดของแต่ละชิ้นงานรวมถึงราคาวางไว้ด้านข้างของผลงานด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: info@infiniteluxury.com
