นพ.ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News ว่า จากกรณีที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต ทำการเฝ้าระวังและคัดกรองอาการไข้และอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ ในผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามายังประเทศไทย หลังจากที่ประเทศจีนพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นหลายสิบราย ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมา รวมไปถึงการเฝ้าระวังผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยและมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเชื้อจำนวนมากกว่าร้อยราย
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานภูเก็ต ทำการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน บริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งสนามบินภูเก็ตมีเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น วันละ 1 เที่ยวบิน ในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของทุกวัน รวมไปถึงเที่ยวบินที่ได้เพิ่มเข้ามา โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ป่วยหรือผู้ที่มีอาการต้องสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สสจ.ภูเก็ต และ ทภก.ต่างก็ได้เฝ้าระวังและมีการประชุมกำหนดมาตรในการเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองโรคปอดอักเสบรุนแรงจากเชื้อไวรัส ในกลุ่มผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย โดยมีการอัพเกรดการตรวจสอบเทียบเท่า โรค SARs เพื่อเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบในระหว่างช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ในเรื่องนี้ พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเน้น การตรวจสอบสายการบิน จากเมืองอู่ฮั่นเป็นหลัก เพราะเป็นจุดที่เกิดโรคระบาด และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นก็ได้มีการเฝ้าระวังจากสายการบินต้นทางมาแล้วด้วย
นพ.ธนิศ ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้จังหวัดภูเก็ตยังไม่พบการระบาดของโรคดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้อธิบายขั้นตอนกระบวนการคัดกรอง ผู้ที่เดินทางเข้าสู่สนามบินภูเก็ต ได้รับการคัดกรองโดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกน และแจกเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับโรค รวมถึงการจัดการดูแลและส่งต่อผู้ป่วย พร้อมจัดเตรียมห้องแยกพิเศษสำหรับผู้ต้องสงสัยมีอาการของโรค รวมไปถึงอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ต่าง ๆ และทีมเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และนกรณีที่พบผู้โดยสารที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 38 องศา จะดำเนินการตามขั้นตอนตามมาตการการเฝ้าระวังโรคต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำว่าในกรณีของผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น แล้วเกิดมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และเหนื่อยหอบ ภายใน 14 วันหลังกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ขอให้รีบติดต่อ สสจ.ภูเก็ต ที่เบอร์โทรศัพท์ 076-211330 เป็นการด่วน!
