หน้าที่เขา หน้าที่เรา เพื่อส่วนรวม

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันได้ไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านราดหน้าเจ้าอร่อยบนถนนพังงา ย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณนั้นหาที่จอดรถยากมาก เพราะส่วนมากจะเป็นมีเส้นจราจรขาว-แดง ซึ่งหมายความว่าห้ามจอด แต่พวกเราคนไทยส่วนใหญ่ก็มักฉวยโอกาสจอดในพื้นที่ตรงนั้นเพื่อความสะดวกสบายของเราในการทำธุระต่างๆ

ข่าวภูเก็ต

วันอาทิตย์ ที่ 9 กรกฎาคม 2560, เวลา 14:00 น.

วันนั้นฉันเห็นรถไม่ต่ำกว่า 10 คันโดนล็อคล้อเนื่องจากจอดรถในบริเวณที่ทาสีขาว-แดง ฉันขับรถวน 2-3 รอบจนกระทั่งเจอที่จอดที่เหมาะสม และใกล้ๆที่จอดของฉันวันนั้น ฉันเห็นตำรวจนายหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆใกล้ๆล้อรถคันหนึ่ง ฉันจึงทักทายไปว่า “ล็อคหลายคันเลยนะพี่วันนี้ เห็นจอดขาว-แดงเยอะเลย” ตำรวจตอบกลับมาว่า “ใช่ครับ เราก็ทำงานของเรา”

ทุกวันนี้โลกโซเชียลได้กลายมาเป็นสังคมขนาดใหญ่ยักษ์ที่ทุกคนมีสิทธิ์เผยแพร่เรื่องราวต่างๆและในขณะเดียวกัน โลกโซเชียลก็ได้กลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการกระจายข่าวเมื่อใครสักคนต้องการความช่วยเหลือ หรือ “แฉ” พฤติกรรมของคนบางรูปแบบเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและพัฒนาสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า

หนึ่งในสิ่งที่เห็นได้บ่อยในโลกโซเชียลคือการแพร่คลิปและรูปภาพการทำงานของคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์ราษฎร์ ซึ่งมีทั้งการชื่นชมและการโจมตีเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่การโจมตีหลายครั้งจะมีกี่ครั้งที่ตำรวจเป็นฝ่ายผิด

การโพสต์ภาพใบสั่งจากตำรวจจราจรได้กลายมาเป็นโพสต์ยอดนิยม ทั้งเหตุขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ขับรถไม่สวมหมวกกันน็อค หรือการจอดรถในที่ห้ามจอด หลายคนโพสต์ตัดพ้อต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่ารังแกประชาชน ไม่อะลุ้มอะล่วย ต้องการรีดไถเงิน ฯลฯ แต่ถ้าคิดดีๆแล้วความผิดนี้เป็นของใคร?

คนไทยหลายคนคุ้นเคยกับนิสัยมักง่ายและเห็นแก่ตัวเพื่อความสะดวกของตนเอง เมินกฎจราจรที่บัญญัติไว้เพื่อกำหนดกติกาให้ทุกคนเคารพเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย การสวมหมวกกันน็อคหรือการไม่ขับย้อนศรนั้นทำไม่ยากและผู้ขับขี่เองก็ปลอดภัยด้วย การจอดรถให้เหมาะสมนั้นเป็นหน้าที่ที่ผู้ขับขี่พึงมี ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาในการทำธุระสั้นแค่ไหน แต่ข้ออ้าง “จอดแป๊บเดียว” และจอดรถบนเส้นขาวแดง หรือจอดซ้อนคันจนรถที่ตามหลังมาหลายคนต้องเสียเวลาเปลี่ยนเลนและก่อให้เกิดปัญหารถติดเพียงเพราะคนคนเดียวต้องทำธุระ

มีคนไม่น้อยที่เรียกร้องให้ภาครัฐและส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆให้เร่งพัฒนาสิ่งต่างๆเพื่อแข่งขันกับนานาประเทศ แต่อยากให้ถามใจตัวเองก่อนว่าท่านเคารพกฎหมายดีแล้วหรือยัง ถ้าหากบ้านเมืองยังเต็มไปด้วยคนนิสัยแบบนี้ การพัฒนาประเทศก็คงไม่มีประโยชน์ใดๆเพราะนิสัยไม่พร้อมจะก้าวตามความเจริญเสมือนเป็นจระเข้ขวางคลอง

ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง พวกเราซึ่งเป็นประชาชนก็ควรปฏิบัติหน้าที่เป็นพลเมืองดีด้วยการเคารพกฎหมาย หากคุณทำผิดกฎหมายคุณก็ต้องได้รับโทษไปตามระเบียบ กฎหมายมีไว้เพื่อให้ทุกคนเคารพกติกาเพื่อความสงบสุขในการอยู่ร่วมกัน ลดความเห็นแก่ตัว ลดความมักง่ายลงบ้าง ในยุคที่บ้านเมืองกำลังย่ำแย่ หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเป็นพลเมืองที่ดีตามกฎหมายเพื่อผลักดันประเทศชาติให้พัฒนาคงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกำลัง

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่