หัวใจสิงห์ ความจริงที่ซ่อนในดวงตา กับโลกแห่งศิลปิน Pop Surrealism

ศิลปะ - วันที่อากาศแจ่มใส ในขณะที่ผมกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่บนถนนพังงาใจกลางเมืองภูเก็ต จู่ ๆ ผมก็นึกขึ้นมาว่า เส้นทางชีวิตคนเรามันก็เหมือนกับความฝัน เพราะเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผมยังเดินทอดน่องบนถนนออกซ์ฟอร์ดในกรุงลอนดอนอยู่เลยภายใต้บรรยากาศแห่งฝนชุ่มเย็นเจี๊ยบโปรยปรายอย่างไม่ขาดสาย ด้วยหัวใจที่เปล่าว่างจากความพยายามในการส่งงานพิมพ์อันแสนเบื่อหน่ายให้ทันกำหนด แต่ราวกับเพียงหนึ่งพริบตาที่ตัวผมเองได้มาใช้ชีวิตอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มงานในฐานะบรรณาธิการไลฟ์สไตล์

David Jacklin

วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2561, เวลา 13:00 น.

ขณะที่เดินเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นเอง ผมก็รู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งกำลังจดจ้องมาที่ผม ไม่ใช่แค่ตาคู่กลมโตธรรมดานะ มันคือลูกตาที่ใหญ่เอามาก ๆ ที่แอบมองมาจากมุมลึกลับ ชั่วครู่ต่อมาผมก็ได้รู้ว่าสายตาเหล่านั้นเป็นของบรรดาสาวน้อยในท่าทางที่ต่างกันออกไป โดดเด่นอยู่ท่ามกลางสีสันสะดุดตากับฉากหลังที่มีลวดลายสดใสชัดเจน และนั่นก็ทำให้ชีวิตผมเหมือนหลุดลอยเข้าไปในโลกแห่งความฝันสุดหวานแหววราวกับลูกกวาดก็ไม่ปาน

ผมขอนำทุกท่านเข้าสู่ กานตู่ สตูดิโอ88 และผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังการสรรค์สร้างชิ้นงานศิลปะอันงดงามบนผืนผ้าใบนี้ก็คือ ศิลปินแนว “ป๊อป เซอร์เรียลลิซึม” ซึ่งคุณแม่แห่งภาพวาดสุดแสนสะดุดตาเหล่านี้คือ กาญจนา ขำครุฑ หรือ กานต์ ซึ่งสตูดิโอแห่งนี้ก็ยังถูกใช้ร่วมกับศิลปินท่านอื่น ๆ อีกสองท่าน แต่ทว่าในตอนนั้นผมได้ตกอยู่ในมนต์สะกดของคุณกานต์เข้าให้เสียแล้ว

การเดินทางของ “ป๊อป เซอร์เรียลลิซึม” เริ่มต้นช่วงปลายปี ค.ศ. 1970 เมื่อกลุ่มศิลปินใต้ดินที่มีชื่อว่า “โลวโบรว” เป็นความเคลื่อนไหวทางทัศนศิลป์ใต้ดิน ได้ก่อเกิดขึ้นในแถบฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา และเฟื่องฟูอย่างยิ่งในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจะมีความเชื่อมโยงกับแนวมโนภาพสมัยใหม่ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากงานภาพตัวการ์ตูน (คอมมิกซ์) ลายสัก เรื่อยไปจนงานศิลปะข้างถนน หรือ สตีท อาร์ท และวัฒนธรรมด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ศิลปะประเภทนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ประชดประชัน หรือแอบซ่อนความหมายซุกซนหลากหลายไร้ข้อจำกัดเอาไว้ ซึ่งแนวคิดของศิลปินกลุ่มนี้มีรากฐานมาจากงานศิลปะแนว ดาดาอิซึม หรือ ดาดา (Dadaism) เซอร์เรียลลิซึม (Surrealism) และโฟวิสซึม (Fauvism) นั้นเอง

ศิลปะสายนี้ได้ถือกำเนิดขึ้น และก่อเกิดศิลปินมากมายที่สร้างสรรค์ผลงานอันแสนซับซ้อน จนเป็นที่รู้จักกันในนาม “ป๊อป เซอร์เรียลลิซึม” และหากจะพูดถึงตัวพ่อของวงการนี้คงหนีไม่พ้น “Kenny Scharf” ผู้ที่ถูกขนานนามว่า “godfather” เคนนี่ได้บอกเล่าถึงการเดินทางสู่ความเป็น Pop-dom ว่า “เซอร์เรียลลิซึม เป็นอะไรที่เหมือนกับจิตสำนึกยามฝัน ที่ไร้ซึ่งความตระหนักตื่นรู้ใด ๆ ภาพต่าง ๆ เกิดขึ้นมาจากความรู้สึกอันว่างเปล่าไร้ซึ่งกรอบและข้อจำกัด เพียงแต่ว่าความไร้ซึ่งความรู้สึกตัวของผมนั้นมันดันเต็มไปด้วยภาพในงานด้านศิลปะแห่งป๊อป ห้วงความฝันอันไร้ซึ่งความรู้สึกของผมคือป๊อป เพราะฉะนั้นงานศิลปะนี้จึงต้องกลายมาเป็น “ป๊อป เซอร์เรียลลิสซึม” และผมก็เชื่อว่านี่ก็คือคำตอบที่ตรงกับใจที่หลายคนคาดเอาไว้

แต่สำหรับเส้นทางแห่งศิลปะของคุณกานต์นั้น มันกลับแตกต่างและโดดออกไปจากเสน่ห์อันงงงวยของงานศิลป์ฝั่งตะวันตกในอเมริกา เพราะเธอนั้นได้เดินตามรอยทางแห่งความฝัน ริเริ่มและต่อยอดความปรารถนาของเธอเองจากบ้านเกิดอันสุดแสนสงบของเธอเองในจังหวัดราชบุรี

กานต์จบการศึกษาในสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น เธอได้ทำงานในแกลเลอรีเล็ก ๆ เรียนรู้และฝึกฝนทักษะจากเหล่าศิลปินในชุมชน เมื่อเธอเรียนจบความรู้และประสบการณ์ของเธอก็ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินเต็มตัวที่มากไปด้วยทักษะ เทคนิค และความคิดสร้างสรรค์

กว่า 8 ปีเต็ม ๆ ที่เธอได้เก็บตัวฝึกฝนฝีมืออยู่ ณ เมืองพัทยาและหาดกมลา ในที่สุดเธอก็เริ่มสร้างแนวทางศิลปะของเธอเอง และได้ฤกษ์เปิดแกลเลอรีแสดงภาพผลงานบนเกาะภูเก็ตแห่งนี้

“ฉันคิดว่าตัวเองหลงรักงานพวกป็อปอาร์ต และผลงานร่วมสมัยเอามาก ๆ สิ่งเหล่านี้มันเกิดมาจากสภาพแวดล้อมรอบตัวของชีวิตในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน หนังสือแฟนตาซี รวมไปถึงนิตยสารย้อนยุคปี 60 และยุค 70 ฉันมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นดั่งสีสันในชีวิตก็ว่าได้” เธอเล่า

“สิ่งหนึ่งที่ฉันคอยบอกกับตัวเองก็คือ ถ้าอยากจะริเริ่มผลงานอะไรสักอย่างในแบบของเราเองนั้น มันจะต้องเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง และเป็นประสบการณ์จากชีวิตจริงของเราศิลปินเองต้องให้เวลาในการใช้ชีวิต ทำความเข้าใจชีวิต และเรียนรู้จากมัน ผลงานของฉันก็เช่นกัน เพราะมันเกิดขึ้นและเบ่งบานออกมาจากความรู้สึกนึกคิดและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงชีวิตวัยเด็ก” เธอเล่าอย่างมีความสุข เมื่อได้หวนคิดถึงเรื่องราวที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต

กานต์บอกว่า การวาดภาพใบหน้าคนนั้นเป็นงานที่ทำได้เรื่อย ๆ สามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ และเรายังสามารถเรียนรู้จากมันได้ตลอดเวลาอีกด้วย กานต์ยังบอกอีกว่าสำหรับเธอแล้ว ดวงตาเป็นองค์ประกอบอันสำคัญของชิ้นงาน

“เด็กผู้หญิงคนนี้เกิดมาจากความรู้สึกในใจของฉันเอง” กานต์เล่า “เธอมีดวงตาอันกลมโต ซึ่งสิ่งที่อยู่ในนัยน์ตาทั้งสองข้างนั้นคือความจริง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะยังไงคุณก็ไม่อาจเก็บซ่อนความจริงจากแววตาได้”

ความสลับซับซ้อนภายในใจของศิลปินท่านนี้ถูกแสดงออกมาผ่านตัวตนต่าง ๆ บนภาพวาดของเธอ เด็กสาวนั้นก็คือตัวเธอเองในวัยเยาว์ เธอเปิดเผยความรู้สึกของเธอในโลกแห่งความฝัน ผ่านความกลัว และแรงปรารถนา ออกมาให้กลายเป็นผลงานศิลป์ เธอในวันนี้ คือดวงดาวในใจที่เธอเคยใฝ่ฝันจะไขว่คว้า ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ

การที่ผมได้มองจ้องภาพผลงานของเธอนั้น มันสร้างความรู้สึกที่ยากจะอธิบายได้ มันเหมือนกับมีความซับซ้อน หรือความลับบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในดวงตากลมโตเหล่านั้น ความหมายที่ถูกเก็บซ่อนอยู่นั่นเองคือสิ่งที่สามารถสะกดให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้หยุดมองเข้าไปในดวงตาของเด็กหญิง และพยายามจะสื่อสารกับเด็กหญิงคนนั้น เพื่อที่จะหาคำตอบว่าเธอต้องการจะบอกอะไรกับพวกเรา

สนใจติดตามผลงานของคุณกานต์ได้ที่ เว็บไซต์ www.gantustudio88.com

ข่าวภูเก็ต : แปล

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่