4 วิธีเลี่ยงสารอันตรายฟอร์มาลิน:
- อาหารสดเมื่อดมกลิ่นจะต้องไม่มีกลิ่นฉุน แสบจมูก
- ผักผลไม้ที่ยังดูสด ไม่เหี่ยวทั้ง ๆ ที่วางขายมาตลอดทั้งวัน
- เนื้อสัตว์สดที่มีสีเข้ม และสดผิดปกติทั้ง ๆ ที่ไม่ได้แช่เย็น
- ก่อนนำอาหารสดมาปรุงควรล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้งนำมาล้างน้ำ
ทั้งนี้ อาหารที่พบสารฟอร์มาลิน ได้แก่ อาหารทะเลสด เช่น กุ้ง ปู ปลา ปลาหมึก และผักสด ผลไม้สด รวมถึงเนื้อสัตว์สด เป็นต้น หากไม่มั่นใจไม่ควรนำมาบริโภค
ก่อนหน้านี้ นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูล “ฟอร์มาลิน” มีส่วนประกอบหลัก คือ ฟอร์มาลดีไฮด์ 37% ลักษณะเป็นน้ำใส ไม่มีสี กลิ่นฉุน และมีฤทธิ์ระคายเคือง โดยทั่วไปมีไว้เพื่อการฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิ่งของบางอย่างขึ้นรูปและคงรูปอยู่ ใช้ในอุตสาหกรรม ใช้ในการเกษตร ใช้ในทางการแพทย์ ใช้ในเครื่องสำอางค์ ซึ่งปัจจุบันมีการนำมาใช้ผิดประเภท คือ ใส่ในอาหารโดยเฉพาะพวกอาหารทะเลที่เน่าเสียไว ซึ่งฟอร์มาลินก่อให้เกิดอันตรายมากมาย เมื่อทานอาหารที่มีส่วนผสมของฟอร์มาลินเข้าไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณ
“ฟอร์มาลิน” แค่ได้กลิ่นก็จะมีอาการฉุน แสบคอ เกิดอาการผิดปกติต่อระบบทางเดินหายใจได้แล้ว บางคนทานเข้าไปจนเกิดอาเจียน เสียเลือดมากจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี เพราะทางเดินอาหารเกิดการไหม้จากสารฟอร์มาลินที่มีความเป็นกรด หรือเมื่อได้รับในปริมาณที่เข้มข้นก็จะทำให้เลือดเป็นกรด เกิดภาวะช็อค ความดันตก และตามมาด้วยการเสียชีวิต
วิธีสังเกตในการเลือกซื้ออาหารสด หรือตรวจสอบว่ามีสารฟอร์มาลินหรือไม่:
โดยดูว่าร้านนั้น ๆ มีกลิ่นฉุนของสารเคมีแปลก ๆ หรือเปล่า ขอยกตัวอย่างกุ้ง หากเนื้อกุ้งมีทั้งส่วนที่แข็งสด และมีส่วนที่เปื่อยยุ่ยในตัวเดียวกัน แสดงว่าต้องมีการแช่ฟอร์มาลินมาอย่างแน่นอน ให้หลีกเลี่ยงในการซื้อมาบริโภค เพราะหากเป็นอาหารสดต้องสดเสมอกัน ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเปื่อยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแข็งสด
ที่มา: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ / สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา