อุปสรรคทางการสื่อสารที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างมนุษย์เราและเพื่อนสี่ขาของเราก็คือ เมื่อสุนัขงับหรือกัด มักจะถูกอธิบายว่าเป็น “การกระทำแบบไร้เหตุผล” อย่างไรก็ตามสุนัขเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและภาษากายชั้นยอด ดังนั้นสัญญาณทั้งหมดมันบอกอยู่ตรงนั้นแล้ว สาเหตุที่ผู้คนลงเอยด้วยการโดนขบหรือโดนกัด ก็เป็นเพราะว่าพวกเขาอ่านสัญญาณที่สุนัขพยายามจะส่งออกมาผิดหรือพลาดไปโดยสิ้นเชิง
การหวงข้าวของโดยทั่ว ๆ ไปถือเป็นเรื่องธรรมดาของเหล่าสุนัข เป็นการที่พวกมันแค่จะสื่อสารออกมา เพื่อที่จะบอกว่า “อย่านะ นี่ของฉัน!” แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่สุนัขเกิดอาการหวงอาหารหรือของเล่นของมัน (ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม) และคุณมีความจำเป็นที่ต้องเอามันออกไป ตอนนี้แหละที่น่าจะเป็นปัญหา การรู้ว่าควรจะเข้าใจอะไรเป็นลำดับแรกจะช่วยแก้ไขพฤติกรรมนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาร้ายแรงยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีสิ่งสำคัญอะไรบ้างที่เราต้องทำความเข้าใจ
การกินอย่างรวดเร็ว
สุนัขบางตัวมักจะชอบกินเร็วเป็นเรื่องปกติของมัน หากว่าคุณเลี้ยงสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์หรือบีเกิ้ล (โดยไม่ได้เป็นพวกเพาะสายพันธุ์!) คุณคงรู้นะว่าผมหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตามสุนัขเหล่านี้อาจกินเร็วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด แต่สำหรับสุนัขที่รู้สึกว่าถูกคุกคาม เมื่อมีคนหรือสุนัขตัวอื่นเข้าใกล้จะทำให้พวกมันเร่งความเร็วในการกินเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างเห็นได้ชัด และอาจจะเห็นพวกมันเปลี่ยนท่าทางการยืนให้แตกต่างออกไป เพื่อพยายามกันไม่ให้สุนัขตัวอื่นเข้ามาถึงชามข้าวได้
ทำตัวแข็ง
หาก “ผู้บุกรุก” ยังคงเข้ามาใกล้ชามข้าวของสุนัขของคุณ ขั้นตอนต่อไปมีแนวโน้มที่สุนัขของคุณ จะเริ่มยืนแข็งไม่ขยับเขยื้อนทันที จมูกของมันอาจยังอยู่ในชามข้าว แต่มันไม่ได้กิน มันจะจ้องเขม็งไปที่เป้าหมายที่กำลังใกล้เข้ามา พร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ตาแข็ง’ นี่คืออาการที่กำลังเตือนอีกฝ่ายหนึ่งว่า “นี่ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ”
การขู่คำราม
หากการยืนตัวแข็งและการจ้องเขม็งใช้ไม่ได้ผล สุนัขจะเพิ่มลำดับการแสดงออกไปเป็น ทำเสียงคำรามต่ำและลึก ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นริมฝีปากมันจะมีลักษณะม้วนขึ้นด้วย ณ จุดนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าสุนัขไม่ได้โง่นะ และโดยทั่วไปแล้วพวกมันมักจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าแบบตรงๆ พวกมันรู้ดีว่าเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและมีความเสี่ยงสูง พวกมันหวังแค่ว่าการตอบโต้การคุกคามแบบเจตนาดีจะเพียงพอแล้ว ซึ่งการที่สุนัขจะทำลักษณะริมฝีปากม้วนขึ้นและคำรามต่ำ ๆ นั่นเองคือการตอบโต้การคุกคามแบบไม่ได้ปองร้าย นอกจากนี้ระดับของการม้วนของริมฝีปากจะทำให้คุณเข้าใจถึงความคิดในหัวของสุนัขอีกด้วย สุนัขที่ม้วนริมฝีปากขึ้นเพียงเล็กน้อยอาจจะแค่ต้องการโชว์ด้านข้างของเขี้ยวหน้าเป็นสุนัขที่มั่นใจในตัวมัน และแสดงออกอย่างจริงจังถึงความเป็นจ่าฝูง ส่วนสุนัขที่กำลังพยายามโชว์ฟันทั้งหมดโดยดึงริมฝีปากกลับไปด้านหลังทั้งหมด กลับเป็นสุนัขที่อาจจะไม่มีความมั่นใจมากเท่าที่ควร และมีแนวโน้มที่จะถอยหนีไปหากสิ่งต่าง ๆ ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น การที่มันโชว์ฟันทั้งหมดของมันออกมาแบบนั้นเหมือนจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า “ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่านี่จะได้ผลนะ เพราะฉันไม่มีอะไรจะเอาออกมาสู้แล้ว”
การขบ
หากสัญญาณเตือนทั้งหมดยังไม่ได้ผลนัก ระดับต่อไปที่พวกสุนัขจะทำก็คือการขบกัดอากาศ โดยปกติการกระทำนี้จะเป็นจุดที่ผู้คนเริ่มถอยออกไป สุนัขอาจจะหันไปในทิศทางที่คุณอยู่และขบกัดอากาศ 2-3 ครั้ง ผมมักจะได้ยินคนพูดกันว่าพวกเขาไม่ได้ถูกกัดเพราะพวกเขา “ขยับมือออกได้ทันเวลา” ผิดถนัด! ปฏิกิริยาของสุนัขน่ะเร็วกว่าคนเรา 5-7 เท่า หากสุนัขต้องการกัดคุณจริง ๆ ล่ะก็ พวกมันคงทำไปแล้ว พวกมันทำแบบนี้เพียงแค่ต้องการเตือนคุณเท่านั้น สุนัขอาจจะทำท่าขบกัดอากาศแบบนี้ซ้ำ ๆ และอาจตามมาด้วยการคำรามหรือแม้แต่การเห่า
การหยุด!
มาถึงขั้นนี้ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์อื่น ๆ ถ้ายังไม่เข้าใจที่สุนัขตัวนั้นพยายามที่จะบอก พวกมันอาจจะต้องถึงขั้นงับให้หยุด การกระทำแบบนี้ไม่ใช่การกัดที่ตั้งใจจะทำให้เกิดความเสียหาย แต่เป็นการตั้งใจที่ระงับหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันคล้ายกับการที่ใครบางคนจับมือคุณไว้แน่นแล้วพูดกับจะพูดว่า “ฉันบอกให้พอได้แล้ว”
การขย้ำ
และสุดท้ายการกัดจริง แต่ก็นะคุณจะมาบอกตอนนี้ไม่ได้นะว่า ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้มีการส่งสัญญาณเตือนคุณ! นอกจากนี้ต้องบอกก่อนว่าเวลาที่สุนัขต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อย่างน้อยที่สุดก็คือนิสัยใจคอของสุนัข คุณทุกคนคงรู้จักคนที่มีลักษณะ “โกรธง่าย” เอามาก ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอะไรก็ตาม และสุนัขก็เป็นเหมือนกัน สุนัขบางตัวมีความอดทนสูงพอ ๆ กัน เรื่องนี้ไม่ได้เจาะจงที่สายพันธุ์ แต่จะขึ้นอยู่กับนิสัยของสุนัขแต่ละตัว
จะเห็นได้ว่ามีข้อมูลต่าง ๆ มากมายที่สุนัขของเราพยายามที่จะบอกเรา เมื่อมันต้องดูแลปกป้องสิ่งของบางอย่าง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นของเล่นหรือพวกอาหาร และในขณะที่การคำรามของมันอาจดูไม่ค่อยเป็นมิตรสำหรับคุณ แต่ก็นับเป็นอะไรที่สำคัญเช่นกัน เพราะสุนัขกำลังบอกออกไปอย่างชัดเจนว่า มันรู้สึกไม่สบายใจกับบางสิ่งบางอย่าง ลองหาว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้สุนัขรู้สึกแบบนั้น และสิ่งนั้นเองเป็นสิ่งที่เราจะต้องพยายามปรับและเรียนรู้กันใหม่
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกสุนัข หรือปัญหาด้านพฤติกรรมโปรดติดต่อเราที่ 091 654 1960 อีเมล info@k9pointacademy.com หรือทางเว็บไซต์ของเราที่
www.k9pointacademy.com CPA ได้รับการรับรองจาก Certification Council for Professional Dog Trainers (CCPDT) ในสมาชิกของ American Kennel Club (AKC) และ IACP
แปลและเรียบเรียง: ธิชา