ทั้งนี้ ทช. ยังได้ประกาศออกมาอีกว่า ในอนาคตอาจจะมีการประกาศควบคุมการสูบบุหรี่อย่างเต็มรูปแบบบนทุกชายหาดต่อไป
งานนี้ผู้ที่สูบบุหรี่อาจจะไม่ปลื้มใจมากนัก แต่จริงๆ แล้วข้อบังคับในเรื่องการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะนั้นได้มีการกําหนดบทลงโทษอย่างชัดเจนและการบังคับใช้มามากกว่า 20 ปีแล้ว
ซึ่งพื้นที่ปลอดบุหรี่ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 มี 5 สถานที่หลัก ได้แก่ พื้นที่ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง, พื้นที่เปิดโล่ง แต่มีหลังคา ได้แก่ ส่วนให้บริการอาหารของ ร้านอาหารไม่ติดเครื่องปรับอากาศ จุดรอรถ โดยสาร, พื้นที่เปิดโล่งไม่มีหลังคา ได้แก่ สถานที่ออกกําลังกาย สนามกีฬา สถานที่สาธารณะ สนามเด็กเล่น, ตลาด ทั้งที่ตั้งเป็นประจํา และชั่วคราวตามวัน เวลาที่กําหนด และยานพาหนะสาธารณะทุกประเภท (รถเมล์ รถไฟ เรือ แท็กซี่ ฯลฯ)
และแน่นอนว่า “สถานที่สาธารณะ” ย่อมรวมถึงชายหาดต่างๆด้วย อย่างไรก็ตามกฎหมายก็ได้กําหนดให้มีการจัดพื้นที่สูบบุหรี่ เอาไว้เช่นกัน โดยต้องคํานึงถึงว่าสถานที่เหล่า นั้นไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รําคาญแก่ประชาชนบริเวณข้างเคียง, ไม่อยู่ในบริเวณทางเข้า-ออก ของสถานที่ที่ให้มีการ คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และไม่อยู่ ในบริเวณที่เปิดเผย หรือเห็นได้ชัดแก่ผู้มาใช้ สถานที่นั้น ซึ่งผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอด บุหรี่จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ดูเหมือนว่าในทางทฤษฎีผู้คนส่วนใหญ่ได้ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เคารพ กฎหมายและสิทธิของผู้อื่นด้วยการสูบบุหรี่ ในที่ห้ามสูบ แม้แต่สถานที่ที่มีป้ายห้ามสูบ บุหรี่ชัดเจนก็ยังเห็นคนฝ่าฝืนอยู่เนือง ๆ
หากมองจากมุมของชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง(คนที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้ กฎหมาย) ก็เห็นแต่เพียงว่าไม่เคยมีใครถูกปรับหรือรับโทษจากการสูบบุหรี่ในพื้นที่ห้ามสูบเลยแม้แต่คนเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดคือหน้าที่ของพลเมืองคือการเคารพกฎกติกา ในเมื่อกฎหมายมีอยู่แล้ว ป้ายห้ามก็ติดเอาไว้ชัดเจนจะให้เจ้าหน้าที่มาตามจับคนสูบบุหรี่ก็คงไม่ใช่เรื่องนักเพราะมัน คือจิตสํานึกล้วนๆ
จากรายงานของกรมสรรพสามิตแสดงให้เห็นว่าประเทศเรามีรายได้จากการจัดเก็บภาษียาสูบเดือนตุลาคม 2559 - ธันวาคม 2559 ปีงบประมาณ 2560 มากกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนั้นเองทางภาครัฐก็ ได้ทํามาจัดสรรและใช้ให้เกิดประโยชน์ใน สาธารณูปโภคภาครวมมากมาย
การสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสูบบุหรี่ แต่ก็อย่าลืมว่าบุคคลอื่นเขาก็มีสิทธิเหมือนกันที่จะไม่ถูกรบกวนจากควันบุหรี่ เพียงเรารักษาสิทธิของตัวเองและเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วยการเคารพข้อบังคับต่างๆ สังคมของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอน