แพทย์เตือนหากถูกแมลงกัดหรือมีบาดแผล ต้องดูแลให้สะอาด เลี่ยง “โรคเนื้อเน่า”

จากกรณีที่มีข่าวดาราชื่อดัง ถูกแมลงกัดขณะไปเที่ยวบ่อน้ำร้อนในต่างประเทศ ต้องเข้ารักษาตัวด่วน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนหากถูกแมลง ยุงกัดหรือมีบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อย ให้ดูแลแผลให้สะอาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคเนื้อเน่าได้ หากแผลเกิดการอักเสบ หรือมีไข้ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาโรค

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2562, เวลา 15:11 น.

NF เชื้อแบคทีเรียที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้เสียชีวิตได้ ภาพ CDC

NF เชื้อแบคทีเรียที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้เสียชีวิตได้ ภาพ CDC

วันนี้ (4 พ.ย.) กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเนื้อเน่า หรือ เนคโครไทซิ่ง แฟสเชียไอติส (Necrotizing fasciitis : NF) ว่าเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนในแผล ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อย 2 ชนิด คือ Streptococcus pyogenes และ Staphylococcus aureus โดยมีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังอย่างรุนแรง โรคนี้พบบ่อยในช่วงฤดูฝน มักพบในผู้ที่มีบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแผลจากการถูกแมลงหรือยุงกัด แล้วสัมผัสกับแบคทีเรียที่อยู่ในดินหรือในน้ำทั่วไป และอาจดูแลแผลไม่ดี จนแผลลาม ทำให้แผลติดเชื้อซ้ำซ้อน

สำหรับประเทศไทย แต่ละปีจะพบผู้ป่วยโรคเนื้อเน่าประมาณ 100-200 ราย พบผู้ป่วยมากในช่วงฤดูฝน และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ตำแหน่งที่เกิดมากสุดคือที่บริเวณขา รองลงมาเป็นบริเวณเท้า เมื่อเชื้อโรคเข้าไปในแผล จะทำให้เกิดการอักเสบ ลุกลามได้ง่าย รายที่รุนแรงอาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะไตวาย ช็อค และอาจเสียชีวิตได้ ที่สำคัญหากมาพบแพทย์ช้า เมื่อมีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อกแล้ว จะทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความรุนแรงด้วย

นพ.อัษฎางค์ อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่มีความเสี่ยงเกิดโรคเนื้อเน่า ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด เช่น เบาหวาน ไตวาย มะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้สูงอายุ คนอ้วน ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์หรือยาชุด และผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ เป็นต้น

ในส่วนของการป้องกันโรค ขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผลขึ้น โดยเฉพาะบริเวณขาหรือเท้า แต่หากมีบาดแผลขอให้หลีกเลี่ยงการลุยน้ำ และทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ และใส่ยาฆ่าเชื้อ ระวังอย่าให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปในบาดแผล โดยเฉพาะบาดแผลที่เกิดจากวัสดุที่สกปรก เช่น ตะปู หนาม ไม้ที่อยู่ในน้ำ ทิ่มแทง ควรไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน

ทั้งนี้ หากรู้สึกปวดบริเวณแผล บวม ร้อน แดงมากขึ้น หรือมีไข้ร่วมด้วย อาจเกิดการติดเชื้อได้ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาได้ สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ข้อมูล : กองโรคติดต่อทั่วไป/กองระบาดวิทยา/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่