และนอกจากอาหารจำพวกนี้แล้ว อาหารสำหรับคนรักสุขภาพอย่างเช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัต ก็ยังพบกลูเตนได้อีกด้วย ซึ่งกลูเตนที่ว่าเป็นสเปกตรัมโปรตีน เมื่อเรากินเข้าไปร่างกายต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีถึงจะกำจัดออกจากร่างกายได้หมดส่วนสาเหตุที่ต้องใส่กลูเตนในอาหารก็ด้วยคุณสมบัติของกลูเตนที่จะช่วยทำให้ขนมปังนุ่ม ฟู น่ากิน
แม้กลูเตนจะสามารถกินได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังคืออาการแพ้กลูเตน ซึ่งอาการแพ้นั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบการย่อยทางพันธุกรรม ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน โดยสามารถส่งผลได้หลายๆ ทาง และมีระดับความรุนแรงต่างๆ กัน เช่น
- ท้องอืด การกินกลูเตนสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้สามารถมีผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยเฉพาะในเด็กๆ ได้
- เกิดอาการแพ้ ทำให้ผิวกลายเป็นตุ่มๆ เนื่องจากการกินกลูเตนอาจมีผลทำให้การดูดซึมสารอาหารทางลำไส้ผิดปกติ ส่งผลให้ร่างกายขาดกรดไขมันจำเป็น รวมทั้งวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินเอ
- มีอาการง่วงนอน อ่อนเพลีย เนื่องจากอาหารประเภทนี้มีผลไปยับยั้งการดูดซึมสารอาหารที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง โรคปวดกล้ามเนื้อ รวมถึงอาการทางประสาท เช่น วิงเวียนศีรษะ การสูญเสียความสมดุล บางครั้งอาจมีอาการของไมเกรนอีกด้วย
- การกินกลูเตนอาจส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ส่งผลให้คุณผู้หญิงประจำเดือนมาไม่ปกติ รังไข่ทำงานผิดปกติ และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะของการมีบุตรยาก
- การกินกลูเตนอาจส่งผลทางอารมณ์ คือมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงสมาธิสั้นด้วย
ในผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตน ควรลดการกินอาหารจำพวกแป้ง ขนมปัง หรือเบเกอรี่ต่างๆ แล้วทดแทนด้วยธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวฟ่าง คีนัว หรือเลือกกินอาหารจำพวกแป้งที่ระบุไว้ว่าปราศจากสารกลูเตน นอกจากนั้น เรายังสามารถเลือกกินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น ผักสด ผลไม้สด เนื้อสัตว์ ถั่วชนิดต่างๆ เป็นการทดแทนได้อีกด้วย
