โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ติดง่าย แต่ไม่รุนแรง เน้นย้ำ ป้องกันตนเอง

จากกรณีมีผู้ส่งต่อข้อมูลในสังคมออนไลน์ระบุว่ามีการแพร่ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ขอให้งดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า เป็นข่าวปลอม อย่าแชร์

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 27 พฤษภาคม 2568, เวลา 12:00 น.

ส่วนจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นจริงเป็นการแพร่ระบาดตามคาดการณ์ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปจนถึงช่วงฤดูฝนจะมีการแพร่ระบาดมากขึ้น แต่ยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2566-2567 พร้อมเน้นย้ำการเฝ้าสังเกตอาการและระมัดระวังตนเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง

ล่าสุดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โควิด-19 รายสัปดาห์ ในระบบ พบว่า ข้อมูลของสัปดาห์ที่ 21 ปี 2568 ระหว่างวันที่ 18-24 พฤษภาคม 2568 (ข้อมูล ณ. วันที่ 26 พฤษภาคม 2568) มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 53,597 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปี 2568 อยู่ที่ 187,031 ราย รักษาในโรงพยาบาล 2,831 ราย ผู้ป่วยนอก 50,766 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิต ปี 2568 อยู่ที่ 46 ราย จากข้อมูลพบว่า ในกรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยสูงสุด 9,575 ราย รองลงมาคือ ชลบุรี พบกลุ่มวัยทำงาน เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ อัตราการป่วยสูง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำว่า โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะโควิด-19 ปัจจุบันติดง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย ขอให้ป้องกันตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ส่วนสถานศึกษาในช่วงเปิดเทอมขอให้ครูใช้มาตรการคัดกรองเด็กในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน หากมีอาการป่วย มีไข้ มีอาการของโรคทางเดินหายใจ ควรให้สวมหน้ากากอนามัย และแจ้งผู้ปกครองให้รับตัวไปตรวจรักษา กรณีที่พบการป่วยเป็นกลุ่มก้อนให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยในรอบสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 4 - 8 พ.ค. 68 ผู้ป่วย 7,013 ราย เสียชีวิต 1 ราย สำหรับสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 8 พ.ค. 68 พบผู้ป่วยสะสม 41,197 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย ทั้งนี้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประเทศไทยสามารถพบผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคมีความสัมพันธ์กับกิจกรรม หรือการรวมกลุ่มของคนเป็นจำนวนมาก รวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนจะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากโรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โดยคาดว่าจะพบผู้ป่วยมากขึ้นตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องจนถึงฤดูฝนนี้ อีกทั้งกำลังจะเข้าสู่ช่วงเปิดเทอม โอกาสที่จะพบการแพร่ระบาดมากขึ้นจึงเป็นไปได้

ดังนั้น ขอเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่อย่างเคร่งครัด เมื่อเข้าไปในสถานที่เสี่ยง เช่น สถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก และเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้มีอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งหากป่วยอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ และหากมีอาการสงสัยป่วย ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK เพื่อไม่เป็นการนำเชื้อกลับไปติดกลุ่มเสี่ยง

โควิด-19 ระบาดในช่วงนี้จริง แต่ไม่รุนแรง ใช้ชีวิตปกติได้เพียงป้องกันตนเอง

ทางด้าน นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ในขณะนี้ว่า ส่วนใหญ่จะพบการระบาดในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ ๆ โดยจังหวัดที่พบมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต นนทบุรี และระยอง ซึ่งจากการพยากรณ์โรคของกรมควบคุมโรค ระบุว่าจะมีการระบาดในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม แต่การระบาดจะไม่มากเท่ากับทุกปี สาเหตุการแพร่ระบาดเกิดจากการทำกิจกรรมร่วมกัน หลังสงกรานต์ของทุกปี ย้อนหลังไปประมาณปี 2566-2567 จะพบการระบาดในช่วงนี้อยู่แล้วและก็จะลดลงไป ปัจจัยที่ 2 คือสายพันธุ์ของไวรัสที่มีการเปลี่ยนสายพันธุ์พอดีในช่วงนี้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้มีการระบาดเพิ่มขึ้น

“จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ยอมรับว่าเพิ่มขึ้นจริง เพิ่มขึ้นกว่าช่วงก่อนสงกรานต์ แต่ถ้าเทียบจำนวนคนไข้สัปดาห์ต่อสัปดาห์กับปี 2567 ปีนี้จำนวนคนไข้ยังน้อยกว่า ส่วนจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จะมีคนไข้ตั้งแต่เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม ทำให้ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีทั้งโรคโควิด-19 ที่เป็นโรคประจำถิ่น และไข้หวัดใหญ่ เพิ่มมากขึ้น โดยประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่” นพ.วีรวัฒน์ กล่าว

รมว.สาธารณสุข ย้ำ อย่าตื่นตระหนก โควิด-19 ติดง่าย แต่อาการไม่รุนแรง แนะป้องกันตนเอง แนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลงแล้ว ซึ่งจากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประเทศไทยสามารถพบผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง

“ขอเน้นย้ำว่า โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะโควิด-19 ปัจจุบันติดง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย แต่ก็ขอเน้นย้ำให้ระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ข้อควรปฏิบัติ

1. หากมีอาการสงสัยหรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที

2. หากผลการตรวจเป็นบวก ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว หากจำเป็นต้องออกจากที่พัก ขอให้เข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

3. กรณีที่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ โดยที่อาการไม่รุนแรง แต่ไม่สามารถตรวจ ATK ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่สาธารณะ หากจำเป็นจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

4. กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา

5. งดหรือหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 หากไม่สามารถหลีกเลี่ยง จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่