ซึ่งในระหว่างนั้นก็เกิดมีความหวาดหวั่นและไม่มั่นใจทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในเรื่องการเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด ทำให้หลายฝ่ายต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและผลักดันให้เกิดเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงและจริงใจต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว
จนกระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เปิดเผยกับสาธารณชนถึงข่าวที่คาดว่าหลายคนรอคอย นั่นก็คือความคืบหน้าการแก้ปัญหาไลฟ์การ์ด ด้วยตัวเลขที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนคือเกือบ 40 ล้านบาท เพื่อปฏิบัติงานและสร้างความมั่นใจบริเวณชายหาดทั้ง 12 หาดในจังหวัดภูเก็ต
เห็นได้ว่าตัวเลขนี้สูงเป็น 2 เท่าตัวของค่าจ้างที่บริษัทภูเก็ตไลฟ์การ์ดเซอร์วิสได้รับจาก อบจ.ในอดีต แต่ไม่ว่าตัวเงินจะมีจำนวนเท่าใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจังหวัดภูเก็ตต้องมีพนักงานไลฟ์การ์ดที่ผ่านการฝึกอบรม มีประสบการณ์การทำงานในสถานที่จริง และมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่มีคุณภาพสำหรับการเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมให้บริการและปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ณ บริเวณชายหาดอันเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่ตั้งใจเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ หาดทราย สายลม และแสงแดด ณ เกาะภูเก็ต “ไข่มุกแห่งอันดามัน”
ในวันนี้เทศบาลและอบต.ต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ตทั้ง 7 แห่ง ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าท้องถิ่นภูเก็ตมีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดจ้างไลฟ์การ์ดด้วยตนเอง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดที่เป็นถึงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
เพราะความปลอดภัยรอไม่ได้และเราไม่สามารถนำชีวิตของประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองเป็นมูลค่าหรือราคาใด ๆ ได้ ความปลอดภัยทางน้ำนั้นเป็นสิ่งจำเป็นและจะรอต่อไปอีกไม่ได้แล้วเพราะ “ไลฟ์การ์ดภูเก็ต ของมันต้องมี”
