ไอ้เข้ขวางการท่องเที่ยว

บทความ - “จระเข้ขวางคลอง” สำนวนไทยที่เอาไว้เปรียบเปรย ผู้ที่มีพฤติกรรมชอบกันท่าหรือขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างสะดวก

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันเสาร์ ที่ 9 กันยายน 2560, เวลา 09:00 น.

ภาพ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดภูเก็ต

ภาพ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดภูเก็ต

เหมือนดังจระเข้ที่ขึ้นมาขวางลำคลองทำให้เรือผ่านไปมาไม่สะดวกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวคราวการจับภาพจระเข้ยาว 7 ฟุตด้วยโดรนของชาวต่างชาติรายหนึ่ง ที่บริเวณชายหาดบางเทานั้นโด่งดังไปทั่วประเทศ ซึ่งก็เป็นภาพที่จระเข้นํ้าเค็มตัวผู้ตัวนั้นกำลังว่ายนํ้าอย่างสบายอุรา ก่อนที่จะดำดิ่งหายไปในทะเล หลังจากถูกถ่ายภาพได้ไม่นาน

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจ้าเข้หนุ่มตกเป็นข่าวทางจังหวัดนำโดย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการวางแผนไล่ล่าจับกุมทันทีเนื่องจากจระเข้ถูกพบอยู่ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว หนึ่งในชายหาดชื่อดังของเกาะแห่งนี้

ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ถูกจัดตั้งขึ้นทันใดและทีมไกรทองนี้เองก็ได้มีการรวมเอาทั้งเจ้าหน้าที่และทีมงานจากเอกชนที่มาพร้อมกับความสามารถและประสบการณ์การไล่ล่าชาละวันครบรส แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาวางแผนและปฏิบัติการกว่า 2 วัน 2 คืน กระทั่งจับกุมเจ้าจระเข้หนุ่มนํ้าเค็มตัวนี้ได้ในที่สุด ซึ่งภายหลังชาวโซเชียลก็มีการตั้งชื่อให้ว่าเจ้า “เลพัง”และขณะนี้จระเข้หนุ่มก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเพาะเลี้ยงประมงชายฝั่งบ้านพารา ตำบลป่าคลอก

พ่อเมืองก็ได้ลงพื้นที่ติดตามดูอาการจระเข้ด้วยตัวเอง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังในพื้นที่เพื่อหาแหล่งที่มาของจระเข้หนุ่มดังกล่าว พร้อมกับวางมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวปิดตำนานไล่ล่าชาละวันภูเก็ต!

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เองก็เกิดมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เช่น จระเข้มันอยู่ของมันดี ๆ พรากมันออกมาจากบ้านทำไมและบางรายก็กล่าวว่าได้พบจระเข้ (ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเดียวกันนี้) ในบริเวณชายหาดบางเทาและหาดใกล้เคียงมาแล้วหลายปี และมันก็ไม่เคยทำร้ายใคร บ้างก็เรียกร้องให้ปล่อยมันกลับคืนสูธ่ รรมชาติ แหลง่ ที่มันต้องจากมา

บางส่วนก็กลัวว่าจะเกิดอันตรายจากจระเข้ตัวดังกล่าว เพราะขึ้นชื่อว่าจระเข้คงไม่มีใครอยากจะเสี่ยงมากนัก

อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้คงยากที่จะหาคำตอบ เพราะความคิดเห็นจากทั้ง 2 ฝ่ายก็ดูจะมีเหตุมีผลในความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทางเจ้าหน้าที่เองก็ต้องชั่งนํ้าหนักระหว่าง “ความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว” กับ “ธรรมชาติของสัตว์นํ้าเค็ม” แต่ที่แน่ ๆ งานนี้เจ้าเข้หนุ่มความยาว 3 เมตรนี้ต้องตกมาเป็นจำเลย และถูกพิพากษาไปโดยปริยาย เพราะขึ้นจากนํ้าผิดที่ผิดเวลาแท้ ๆ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกท่านย่อมมีเจตนาที่ดีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่พยายามเสริมสร้างความมั่นใจของนักท่องเที่ยว เพราะการว่ายนํ้ากับจระเข้ย่อมไม่ใช่จุดหมายของนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน และสำหรับอีกฝ่ายที่ทนไม่ได้ที่เห็นจระเข้ถูกกักขังก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก เช่นกัน

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร เจ้าจระเข้ตัวนี้เป็นใครมาจากไหน จระเข้จากฟาร์มหรือกำเนิดจากแหล่งใดก็ยังเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องพยายามหาคำตอบกันต่อไป อย่างน้อยเจ้าเข้ก็ดูจะปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้ดี (ไม่ปรับก็ไม่ได้) ได้แต่หวังว่าเจ้าเข้จะถูกปล่อยตัวไปสู่แหล่งนํ้าธรรมชาติสักแห่งในเร็ววัน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่