ไม่ว่าจะเป็นการบังคับ “สวมหน้ากาก” ในขณะออกนอกบ้านตลอดเวลา ห้ามเต้นในผับ ห้ามเสี่ยงสัมผัส และล่าสุดภูเก็ตออกคำสั่งให้สถานบริการ ผับ บาร์ เปิดได้ถึงเที่ยงคืน และร้านขายอาหารห้ามให้มีการดื่มสุราหลัง 24.00 น.
เริ่มมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เชื่อว่าประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามและให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ ภาคเอกชนดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอดจนมาถึงวันที่เหมือนฟ้าจะเปิดมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการได้มากขึ้น ถึงแม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ก็เหมือนหลายคนพอมีกำลังกลับมาสู้ใหม่ได้อีกครั้ง เพราะหวังว่าการท่องเที่ยวไทยจะช่วยได้แต่ตอนนี้กลับเห็นหลายธุรกิจเริ่ม “ยกธงขาว” ยอมแพ้แก่โชคชะตาที่ไม่มีใครมาดูดำดูดี โชคชะตาที่ต้องช่วยเหลอตัวเองเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้งอมืองอเท้า รอคอยความช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว แทบทุกคนพยายามกันอย่างเต็มความสามารถในการที่จะก้าวผ่านวิกฤติการณ์โควิด-19 นี้ไปให้ได้ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งภูเก็ตจะกลับมารุ่งเรื่องอีกครั้ง และช่วยให้ประชาชนมีรายได้พอที่จะชำระหนี้สินกันได้อีกครั้ง แต่ทุกวันนี้จากการพูดคุยกับหลายคน ก็ได้ทราบว่าส่วนใหญ่แล้วรายได้ก็ยังคงไม่พอที่จำชำระหนี้สินที่เคยวางแผนชีวิตเอาไว้ ว่ารายได้ของตนจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไปได้อย่างไม่ลำบาก พูดง่าย ๆ คือ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
หลายคนพยายามสุดพลังในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มีใครเตรียมพร้อมนี้ บางคนทำได้ดี บางคนแทบตาย บางคนถึงกับยอมแพ้ไปแล้วก็มี เพราะฉะนั้นหากภาครัฐจะมองเห็นความเดือดร้อนของภาคประชาชนแบบจริงจัง และหวังว่าความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้สินต่าง ๆ กับธนาคาร หรือการช่วยเหลือทางด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างไฟฟ้าน้ำประปา อย่างน้อยให้ประชาชนได้ดำรงชีวิตต่อไปได้ เพื่อวันหนึ่งที่สถานการณ์คลี่คลาย แล้วเราสามารถเอาชนะเจ้าโควิด-19 ได้จริง ๆ เราจะยังมีประชาชนที่มีกำลังเพียงพอ และพร้อมจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไปต่อได้อีกครั้ง เพื่อนำภาษีไปพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไป
